รีวิว อายุ 50 กินคอลลาเจนตัวไหนดี??? 2566 อายุมากขึ้น อะไรก็ไม่ค่อยดีค่ะ
รีวิว อายุ 50 กินคอลลาเจนตัวไหนดีที่สุด ??? 2566 อายุมากขึ้น อะไรก็ไม่ค่อยดีค่ะ มีอาการปวดเข่า จนหมอบอกให้ผ่าตัด เพราะปล่อยมานาน เรื่องผิวก็แห้งเหี่ยวย่น
หนึ่งประโยค …. ที่เคยได้ยินคุณพี่คนนึงเล่าให้ฟังตอนทำงานอยู่ข้างๆกัน
– หัวเข่ามีเสียงดัง มีอาการเจ็บเข้าเวลาขึ้นบันไป หรือตอนขึ้นรถยนต์
– ผิวไม่กระชับ เหี่ยว หย่อนยาน เหมือนขาดคอลลาเจน
– รอยสิว ฝ้า กระ เล็บผมขาดหลุดร่วง
– โรคกระดูกพรุน
วัย 50 ปี+ควรเลือกทานคอลลาเจนแบบไหน?
สำหรับท่านที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมักจะพบปัญหาเกี่ยวกับ กระดูก ผิว เป็นส่วนใหญ่ ควรเลือกทานคอลลาเจนที่มีส่วนผสมของ แคลเซียมและวิตามินซีในตัว ซึ่งวันนี้แอดได้เลือกคอลลาเจนที่แอดได้ทำการศึกษามามากพอสมควรที่เหมาะกับวัยนี้มาแนะนำกันจ้า
รีวิว 5 อันดับ คอลลาเจน พรีเมี่ยมเกรด วัย 50 ปี+ควรเลือกทานคอลลาเจนแบบไหนดีที่สุด
1. Super Snow JAPAN Collagen
อายุ 50+ กินคอลลาเจนตัวไหนดีที่สุด เรามาเริ่มกันที่ คอลลาเจนญี่ปุ่นที่ดีที่สุดจาก Super Snow Collagen ที่มี VitaminC และ Calcium L-Threonate บำรุง ฟื้นฟูครบ จบในกระปุกเดียว
เหมาะกับสาวๆที่มีริ้วรอยสิว หน้าแห้ง วัยหมดประจำเดือน ปวดเข่า ปวดเอว ปวดขา ปวดกระดูก มีส่วนช่วยบำรุงฟื้นฟู เน้นเสริมสร้างผิว ข้อเข่า และกระดูกสุขภาพแข็งแรงอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีทาน Super Snow Collagen : วันละ 1 – 2 เวลา ตอนท้องว่างดีที่สุด ใส ไม่คาว ไม่มีกลิ่น ปริมาณ 150,000 mg ราคา 890.- ปกติราคา 1,590.- กินได้ 30 วัน
ช่องทางสั่งซื้อ Super Snow Collagen ผ่าน Line : คลิก!
ข้อดี : เป็นคอลลาเจนญี่ปุ่น ที่มีแคลเซียมแอลทรีโอเนตจากพืช ดูดซึมดีสุดเหมาะกับคนที่ต้องการบำรุง ฟื้นฟูผิวพรรณเนียนใส ข้อเข่า และกระดูกอย่างตรงจุด
2. UC-II SIRINYA Calcium Plus Collagen
UC-II SIRINYA Calcium Plus Collagen อยากเสริมคอลลาเจนแคลเซียม อายุ 50+ กินคอลลาเจนยี่ห้อไหนดีที่สุด เป็นคอลลาเจน UC-II หรือ คอลลาเจน Type 2 ของคุณหมอศิริญญา จากจุฬา
มีส่วนในการช่วยในเรื่องน้ำในข้อเข่า ซึ่งนอกจากจะมี คอลลาเจน UC-II แล้ว ยังมี Calcium L-Threonate และ VitaminK1 ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีทาน UC-II SIRINYA Calcium Plus Collagen : วันละ 1 – 2 เวลา ตอนท้องว่างดีที่สุด ใส ไม่คาว ไม่มีกลิ่น ปริมาณ 110,000 mg เพียง 1,290 .- ปกติ 1,590 .- กินได้ 22 วัน
Website เพิ่มเติม : Sirinya Calcium แคลเซียม หมอจุฬา
ช่องทางสั่งซื้อ : Line คลิก!
ข้อดี : มี คอลลาเจน Type 2 หรือ คอลลาเจนประเภทที่2 และมี Calcium L-Threonate เหมาะกับผู้สูงวัย 50+ ที่มีปัญหาแล้วต้องการเน้นเรื่องไข ข้อ กระดูก โดยเฉพาะ เป็นแบบซองพกพาสะดวก
3. AMADO GOLD COLLAGEN
AMADO GOLD COLLAGEN อายุ 50+ ซื้อคอลลาเจนให้แม่ยี่ห้อไหนดี ต่อมาคอลลาเจนที่แอดได้นำมาแนะนำ เป็นคอลลาเจนของ เชน ธนา
ซึ่งเป็นแบรนด์คอลลาเจนที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานพอสมควรและดี เป็นคอลลาเจนเปปไทด์ที่มีโมเลกุลเล็กจึงทำให้ดูดซึมได้ง่ายและมีประสิทธิภาพเต็มที่เมื่อได้บริโภคค่ะ
วิธีทาน AMADO GOLD COLLAGEN : วันละ 1 – 2 เวลา ตอนท้องว่างดีที่สุด ใส แบบน้ำเปล่า ปริมาณ 150,000 mg ราคา 999.- ปกติ 1,990.- กินได้ 30 วัน
Website เพิ่มเติม : คอลลาเจน GOLD เชนธนา
ช่องทางสั่งซื้อ : Line คลิก!
ข้อดี : เป็นคอลลาเจน 3 ชนิด (Amado – Gold ที่มี Di เปปไทด์ ,คอลลาเจน Type II และไตรเปปไทด์คอลลาเจน) เน้นบำรุงครบครัน จึงละลายไว เหมาะกับคนที่ต้องการเน้นคอลลาเจนโดยเฉพาะ
4. H COLLAGEN
คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี H COLLAGEN แบรนด์คอลลาเจนอีกตัวหนึ่งที่มีคอลลาเจน ที่มี วิตามินซีและ SOD ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับข้อเข่ากระดูก
วิธีทาน H COLLAGEN : วันละ 1 – 2 เวลา ตอนท้องว่างดีที่สุด ใส ไม่คาว ไม่มีกลิ่น ปริมาณ 110,000 mg ราคา 1,190.- ปกติราคา 1,590.- กินได้ 22 วัน
Website เพิ่มเติม : H COLLAGEN
ช่องทางสั่งซื้อ : Line คลิก!
ข้อดี : เป็นคอลลาเจนที่มี VitC พร้อมกับ SOD เหมาะกับสาวๆที่มีปัญหา ฝ้า กระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ
5. Colly Plus COLLAGEN
Colly Plus COLLAGEN และตัวท้ายสุดที่แอดได้นำมาแนะนำ เป็นคอลลาเจนผงชงดื่ม แบรนด์แรกๆ ที่นำคอลลาเจนเข้ามาให้สาวๆในไทยได้ลอง เป็นคอลลาเจน ที่มีกลูต้า บำรุงผิวพรรณ ให้สาวๆกระจ่างใส
วิธีทาน Colly Plus Collagen: วันละ 1 ซอง รสสตรอว์เบอร์รี ดื่มง่าย แบบน้ำผลไม้ ปริมาณ 150,000 mg ราคาเพียง 790 .- ปกติ 1,590.- กินได้ 15 วัน
Website เพิ่มเติม : colly.in.th/colly-plus-collagen-10000-mg
ช่องทางสั่งซื้อ Colly : @COLLYSTORE
ข้อดี : Colly Plus มี กลูต้าลดฝ้ากระ และคอลลาเจนที่มีรสชาติแบบน้ำผลไม้ สตรอว์เบอร์รี
นี้เป็นเพียงการแนะนำ รีวิว คอลลาเจนสำหรับอายุ 50 นะคะ หากไม่สามารถทาน ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีคอลลาเจนอย่างพอดี ได้ทุกวัน ก็สามารถเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน มาบำรุงได้
ที่สำคัญสาวๆอย่าลืม พักผ่อนให้เพียงพอ ให้สุขภาพดีอย่างครบครัน เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ เพราะปัญหาผิว กระดูก เป็นสิ่งที่แก้ยาก และน่ากลัวต่อสาวๆ วัย 50+
ใครที่อยากมีสุขภาพผิวและกระดูกที่ดี อยากให้รีบดูแลก่อนกันก่อนที่จะแก้ไขยากค่าา หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าชม อย่าลืมติดตาม รีวิว ใหม่ๆกันในหัวข้อถัดไปด้วย สวัสดีจ้าา
ต่อไปมารู้จักคอลลาเจนกันก่อนนะคะว่า
-
- คอลลาเจน คืออะไร?
- คุณประโยชน์และหน้าที่ของคอลลาเจน
- อายุเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับการทานคอลลาเจนที่สุด
- คอลลาเจนควรทานช่วงไหนดีที่สุด
- คอลลาเจนทานยากไหม?มีกลิ่นคาวรึเปล่า
- วัย 50 ปี+ควรเลือกทานคอลลาเจนแบบไหน?
นี้เป็นคำถามจากที่เราได้พบเจอบ่อยที่สุด วันนี้แอดจะมาตอบให้ท่านผู้ชมทุกท่านค่ะ ว่าเอ๊!!! ปวดตามข้อต่อ ปวดกล้ามเนื้อ ผิวพรรณไม่สดใส ผมและเล็บไม่แข็งแรงอย่างที่เคยเป็นมาก่อนจะตอบโจทย์ไหม ต้องใช้เวลาทานกี่สัปดาห์กี่เดือนถึงจะเห็นผล ควรทานเวลาไหน มาดูกันเลยจร้า
– อายุ 25+ ร่างกายเริ่มผลิตคอลลาเจน ลดน้อยลง
– อายุ 40+ เริ่มขาดแคลเซียมตามมา โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
– เมื่ออายุ 50+ โรคประจำตัว และอาการปวดต่างๆเริ่มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ผิวพรรณก็แย่ลงไปทุกวัน แต่ยังสามารถบำรุง ฟื้นฟูได้
คอลลาเจนคืออะไร?
คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายคนเราสามารถสร้างขึ้นมาเองได้และจะสร้างน้อยลงเมื่อเราอายุ 25 ปีขึ้นไป จึงไม่แปลกเวลาเราอายุ 25 ปี ริ้วรอยเริ่มมาเต็ม ผิวเริ่มคล้ำตัวลงและไม่เต่งดึง ใช้ครีมไม่ค่อยเห็นผล ปวดหลัง ปวดอะไรต่างๆนาๆเริ่มตามมา
คอลลาเจนมีกี่ประเภท อะไรบ้างและสามารถพบได้ที่ไหน?
ร่างกายคนเรานั่นมีคอลลาเจนหลากหลายประเภทเลยก็ว่าได้ ซึ่งจะให้เอามาหมดๆคงไม่ไหว วันนี้แอดเลยเลือกประเภทคอลลาเจนที่พบบ่อยและจำเป็นที่สุดมาให้กันค่ะและจะมีคอลลาเจนประเภทไหนบ้าง มาชมกันค่ะ
คอลลาเจนที่จำเป็นแบ่งออกหลักๆเป็น 6 ประเภท ได้แก่
- ประเภทที่ 1 (Collagen Type1) เป็นคอลลาเจนที่สำคัญมาก คอลลาเจนชนิดนี้มีอยู่ตามในร่างกายถึง 90% ไม่ว่าจะจากเส้นเอ็น ผมและเล็บหรืออวัยวะต่างๆ ที่มีหน้าที่ช่วยให้ผิวเรามีความยืดหยุ่นแข็งแรงและช่วยทำให้บาดแผลหายเร็วยิ่งขึ้น เป็นคอลลาเจนที่ถูกมาแทนคอลลาเจนประเภทที่3 นั่นเองค่ะ
- ประเภทที่ 2 (Collagen Type2) คอลลาเจนที่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือท่านผู้หญิง เพราะ เป็นคอลลาเจนที่ช่วยเสริมสร้างข้อต่อกระดูก ฟัน ให้แข็งแรง บรรเทาโรคกระดูกพรุนของท่านสาวๆและยังช่วยลดอาการปวดตามข้อเข่ากระดูกลอีกด้วย
- ประเภทที่ 3 (Collagen Type3) คอลลาเจนที่พบบ่อยเช่นเดียวกับประเภทที่ 1 ซึ่งมีบทบาทหน้าที่คล้ายๆกัน ช่วยทำให้ภายในเยื่อหัวใจและเส้นเลือดทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ถ้าหากร่างกายคนเราขาดคอลลาเจนประเภทที่ 3 อาจก่อให้เกิดเส้นเลือดแตกได้
- ประเภทที่ 4 (Collagen Type4) เป็นคอลลาเจนที่พบในเยื่อบุผนังเซลล์ ที่ล้อมรอบไปด้วยไขมันและกล้ามเนื้อต่างๆ มีหน้าที่คอยสร้างเบซัลลามินา และเสริมสร้างการทำงานของเซลล์ระบบประสาทที่ดีขึ้น
- ประเภทที่ 5 (Collagen Type5) พบได้ในเซลล์ตามเส้นผมและเซลล์พื้นผิวหนังนั่นเอง ซึ่งพบได้ในคุณสตรี หากตั้งครรภ์ก็จะทำให้พัฒนาสารอาหารและออกซิเจนของทารกดีขึ้นและเจริญเติบโตค่ะ
- และประเภทที่ 10 (Collagen Type10) เป็นประเภทที่ช่วยสร้างการเกิดกระดูกใหม่หรือกระดูกอ่อน มีบทบาทหน้าซ่อมแซมกระดูกที่แตกหักและไม่แข็งแรงให้กลับมามีความแข็งแรงหนาแน่นอีกครั้งค่ะ
แหล่งอาหารของคอลลาเจน
สามารถพบได้ตามเนื้อสัตว์ต่างๆได้แก่ จากปลาไม่ว่าจะปลาทะเลหรือปลาน้ำจืด ไข่ เนื้อไก่ เนื้อวัว และพบได้ในกระดูกอ่อนของสัตว์
สาเหตุที่ทำลายคอลลาเจน
- แฮงค์เอ้าท์บ่อย ดื่มแอลกอฮอล์มาก
- สูบบุหรี่จัดเป็นประจำ
- เครียด นอนดึก นอนไม่เพียงพอ
- ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
- สายของหวาน ทานน้ำตาลบ่อย
- ทำกิจกรรมกลางแจ้งแดดเป็นประจำ
คุณประโยชน์และหน้าที่ของคอลลาเจน
- ช่วยให้ผิวฟูและยืดหยุ่น กระจ่างใส ดูมีสุขภาพผิวที่ดีและอ่อนเยาว์
- สร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิวและเส้นผม เล็บ ฟัน กระดูก
- บรรเทาอาการปวดตามข้อต่อ กระดูกและโรคเกี่ยวกับกระดูก
- ระบบขับถ่ายดีขึ้น
- ช่วยลด ฝ้า กระ จุดด่างดำ
คอลลาเจนเหมาะกับใครบ้างและอายุเท่าไหร่ควรทาน
- ผู้สูงอายุที่มีปัญหาข้อเข่า ข้อต่อ เสื่อมสภาพ
- คุณสตรีที่พบเจอปัญหาโรคกระดูกพรุน
- วัยที่การสร้างคอลลาเจนน้อยลง 25 ปีขึ้นไป
- มีสิว ผิวไม่กระจ่างใส ฝ้า กระ รอยสิว ริ้วรอย มาเต็ม
- ผมร่วงบ่อย เล็บบางหักง่าย
- ระบบขับถ่ายไม่ค่อยดี
คอลลาเจนควรทานเวลาไหนช่วงไหนดีที่สุด
ตอบ ทานคอลลาเจนตอนท้องว่างเท่านั่น!!! เช่น ทานทันทีที่ตื่นนอนหรือก่อนนอน เพราะ จะทำให้คอลลาเจนดูดซึมได้อย่างมีประสิทธภาพและเห็นผลไว ควรดื่มน้ำระหว่างวัน 1-2 ลิตร ต่อวัน หลีกเลี่ยงการเจอแดดUVที่คอยจ้องที่จะทำลายผิว
คอลลาเจนทานยากไหม? คาวไหม? รสชาติเป็นอย่างไร?
ตอบ คอลลาเจนแท้ที่ไม่ผสมแป้งและน้ำตาลจะไม่มีรสชาติ ไม่มีสี กลิ่น ไม่คาวค่ะ แต่คอลลาเจนจากปลา จะมีคาวๆบ้าง ทานแล้วไม่อ้วน